วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2556

หาดยะนุ้ย

หาดยะนุ้ย เป็นอ่าวเล็กๆ อยู่ทางทิศเหนือของแหลมพรมเทพเพียงประมาณ 10 นาที หาดยะนุ้ยไม่ใช่หาดที่เป็นที่นิยมในการทำกิจกรรม ทางทะเลต่างๆ แต่เป็นหาดที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนในบรรยากาศที่ต้องการความเงียบสงบ บริเวณหาดจะมีแนวชายหาด ไม่ยาวมากนัก มีเม็ดทรายค่อนข้างละเอียดแต่ไม่ขาวมาก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมนอนอาบแดด และเล่นน้ำตามแนวหาดเป็นส่วนใหญ่

จุดเด่น
- มีแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณใกล้เคียงคือ แหลมพรหมเทพ และหาดในหาน
- มีร้านอาหารและเตียงชายหาดไว้บริการนักท่องเที่ยว
- เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
- เม็ดทรายบริเวณหาดมีความขาวและ่ละเอียดมาก
- มีบังกะโลขนาดเล็กบริการนักท่องเที่ยว
จุดด้อย
- เป็นชายหาดขนาดเล็ก ถ้าเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวค่อนข้างแออัด
- ไม่มีแท็กซี่บริการนักท่องเที่ยว
- ไม่มีแหล่งช้อปปิ้ง
- ที่จอดรถค่อนข้างน้อย

การเดินทาง
สามารถเดินทางได้ 2 ทาง โดยทางแรกมาจากราไวย์ ผ่านแหลมพรหมเทพ ขับรถลงภูเขาประมาณ 10 นาที จะเห็นหาดยะนุ้ยอยู่ด้านซ้ายมือ ส่วนอีกเส้นทางมาจากหาดในหาน ระหว่างทางด้านขวามือจะผ่านกังหันลมผลิดไฟฟ้าขนาดย่อม หลังจากนั้นขับตามเส้นทางขึ้นภูเขาประมาณ 5 นาที จะพบชายหาดอยู่ด้านขวามือ สามารถเดินทางเข้าถึงได้ทั้งรถยนต์และ รถจักรยานยนต์

หาดสุรินทร์

หาดสุรินทร์ เป็นชายหาดที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ระหว่างหาดกมลาและหาดบางเทา เป็นชายหาดที่มีเม็ดทรายสีขาวละเอียดมาก น้ำทะเลสีคราม ชวนให้หลงใหลยามอาทิตย์สาดส่องแสงสีทอง บริเวณชายหาดมีคลื่นลมค่อนข้างแรง ทำให้เป็นที่นิยมในการเล่นกระดานโต้คลื่น ของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก และยังมีโรงแรมชื่อดังตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเป็นจำนวนมากอีกด้วย
จุดเด่น
- เป็นที่นิยมในการเล่นกระดานโต้คลื่นของนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูมรสุม
- หาดทรายมีความขาวและละเอียดมากหากเทียบกับชายหาดในภูเก็ตหลายๆแห่ง
- มีโรงแรมรองรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่
- มีแหล่งช๊อปปิ้ง ร้านอาหาร แพ็คเกจทัวร์ ขนาดเล็กและขนาดกลางเป็นจำนวนมาก
- มีแหล่งท่องเที่ยวยามราตีขนาดเล็กหลายแห่ง
- มีกิจกรรมท่องเที่ยวตามชายหาดหลากหลายชนิด
จุดด้อย
- มีจุดรับส่งนักท่องเที่ยวหรือแท็กซี่จำนวนเล็กน้อย
การเดินทาง
การเดินทางมายังหาดสุรินทร์ สามารถมาถึงได้จากสองทางของถนนสายหลัก เส้นทางแรกหากเดินทางมาจาก อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีท้าวศรีสุนทร ขับไปตามทางก่อนเลี้ยวซ้ายขึ้นเนินเขาไปทางหาดกมลา หรือ แหลมสิงห์ หาดสุรินย์จะอยู่ทางขวามือ โดยจะใช้เวลา ประมาณ 25 นาที หรืออีกเส้นทาง หากนับการเดินทางจากหาดป่าตอง ขับมาตามถนนสายหลักเรื่อยๆ ก็จะผ่าน หาดกมลา และแหลมสิงห์ ก็จะมาถึงหาดสุรินยที่อยู่ทางขวามือได้เช่นกัน โดยจะใช้เวลาประมาณ 25 นาที

หาดราไวย์

หาดราไวย์ เป็นชายหาดที่กว้างรองจากหาดป่าตอง เป็นชายหาดที่มีร้านอาหารอยู่จำนวนมาก เป็นที่นิยมในการรับประทานอาหารริมทะเล ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ หาดราไวย์แห่งนี้นับว่า เป็นอีกจุดหนึ่ง สำหรับขึ้นเรือของนักท่องเที่ยวไปยังเกาะแกร่งต่างๆ มากกว่าการเล่นน้ำ หรือทำกิจกรรมอื่นๆในบริเวณรอบๆชายหาด

จุดเด่น
- เป็นหาดที่เป็นจุดขึ้นเรือของนักท่องเที่ยว เพื่อเดินทางไปยังเกาะรอบๆภูเก็ตเป็นส่วนใหญ่
- เป็นหาดที่เต็มไปด้วยร้านอาหารทะเลเป็นจำนวนมาก 
- มีแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณใกล้เคียงคือ แหลมกา และแหลมพรหมเทพ 
- มีโรงแรมขนาดเล็ก ในบริเวณหาด
จุดด้อย
- ไม่เป็นที่นิยมสำหรับเล่นน้ำตามชายฝั่ง
- หาดทรายไม่ขาวมากนัก 
- มีเรือรับส่งนักท่องเที่ยว จอดเทียบชายฝั่งเป็นจำนวนมาก

การเดินทาง
สามารถเดินทางได้ 2 ทาง หาดราไวย์อยู่ห่างจากตัวเมือง ประมาณ 16.5 กิโลเมตร จากวงเวียนห้าแยกฉลอง ตรงไปทางเส้นทางถนนวิเศษ เลยหาดแหลมกาไปเพียง ประมาณ 500 เมตร หาดจะอยู่ผั่งซ้ายมือ หรือหากมาทางหาดในหาน ขับมาตามถนนสายหลักประมาณ 3 กิโลเมตร หาดจะอยู่ทางขวามือ สามารถเดินทางไปถึงหาดได้ทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์

หาดพาราไดส์

หาดพาราไดส์ เป็นชายหาดเล็กๆที่อยู่ถัดจากหาดไตรตรังค์ประมาณ 5 นาที ทางไปจะเป็นทางซีเมนต์เล็กๆ ลัดเลาะป่าธรรมชาติที่มิอาจคิดว่าจะมีชายหาด อยู่ในบริเวณนี้ ชายหาดมีเม็ดทรายขาวและละเอียดพอสมควร มีโขดหินเรียงรายอยู่ด้านข้างของชายหาดทั้งสองข้าง ตรงบริเวณหาดมีร้านอาหาร ไว้คอยบริการนักท่องเทียวอยู่เพียงหนึ่งร้าน และมีเตียงชายหาดไว้ค่อยบริการนักท่องเที่ยวเช่นกัน

จุดเด่น
- ชายหาดมีความเงียบสงบและยังคงมีความเป็นธรรมชาติอยู่มาก
- บริเวณหาดมีเม็ดทรายสีขาวละเอียด
- มีร่มชายหาดไว้ค่อยบริการนักท่องเที่ยว
- มีร้านอาหารในบริเวณหาดอยู่เพียงหนึ่งร้าน
จุดด้อย
- ชายหาดไม่ยาวมากนัก
- ไม่มีโรงแรมในบริเวณหน้าหาด
- ไม่มีแหล่งช๊อปปิ้ง แพ็คเกจทัวร์ สปา
- ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวยามราตรี
- ไม่มีจุดรับส่งนักท่องเที่ยวหรือแท็กซี่ไว้บริการนักท่องเที่ยว
- เนื่องจากการเดินทางไปยังหาดต้องผ่านป่าธรรมชาติจึงไม่เหมาะในการเดินทางยามค่ำคืน

การเดินทาง
หาดพาราไดส์ เป็นหาดที่อยู่สุดสายถนนสายหลักและยังต้องเดินทางลัดเลาะป่าธรรมชาติเป็นอีกระยะทางสั้นๆเพื่อที่สามารถเข้าไปถึงหาดได้ สามารถเข้าถึงหาดจากถนนสายหลักได้เพียงทางเดียว โดยหากเดินทางจากถนนหน้าหาดป่าตองไปจนสุดทางขวาจะผ่านสะพานทวิวงศ์ ขับไปเรื่อยๆจะพบกับหาดไตรตรัง ซึ่งถือว่าสุดสายถนนหลัก จากนั้นจะเห็นทางซีเมนต์เล็กๆ ต้องเดินทางลัดเลาะป่าธรรมชาติไปอีกประมาณ 3-4 นาที ก็จะพบกับหาดพาราไดส์ สามารถเดินทางไปถึงหาด ได้ทั้งรถยนต์และ รถจักรยานยนต์

หาดพันวา

หาดพันวา เป็นหาดที่อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 15 กิโลเมตร โดยทางเข้าจะเป็นเนินเขาอยู่ทางซ้ายมือ ก่อนถึงพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเล็กน้อย เป็นหาดทรายสีขาว น้ำทะเลสีเขียวมรกต มีต้นมะพร้าวขึ้นอยู่เต็มชายหาด เหมาะแก่การเล่นน้ำ อาบแดด กีฬาทางน้ำเป็นอย่างยิ่ง

จุดเด่น
- มีแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณใกล้เคียงคือ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ
- บริเวณหาดเหมาะสำหรับเล่นน้ำ
- เม็ดทรายบริเวณหาดมีความขาวและละเอียดมาก
- มีแหล่งช็อปปิ้ง ขนาดเล็ก และแพ็คเกจทัวร์ ไว้ค่อยบริการนักท่องเที่ยว
จุดด้อย
- เป็นหาดที่ต้องผ่านโรงแรมเคปพันวาเข้าไป ดังนั้นต้องเป็นแขกที่พักในโรงแรม จึงสามารถชื่นชมบรรยากาศได้

การเดินทาง
สามารถเดินทางจากในเมืองประมาณ 20 นาที โดยใช้เส้นทางมาพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ โดยผ่านร้านอาหารเคียงเล และค่ายทหารเรือประมาณ 20 เมตร จะมีซอยยะนุ้ยด้านซ้ายมือ เลี้ยวซ้ายเข้าซอยดังกล่าว ขับตามทางขึ้นเนินสู่โรงแรมเคปพันวา และต้องเดินเท้าโดยผ่านโรงแรมเคปพันวาเข้าสู่หาด

หาดในยาง

หาดในยาง อยู่ทางฝั่งตะวันตกค่อนไปทางเหนือของเกาะ เป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยานฯ ชายหาดมีบริเวณกว้างและยาวมาก มีสวนสนร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อนและเล่นน้ำ หาดแห่งนี้มีบรรยากาศเงียบสงบ เป็นที่นิยมในการผักผ่อนย่อนใจของชาวภูเก็ตเป็นส่วนใหญ่ มีบ้านพักของ อุทยานฯ และเต็นท์สนาม ไว้ค่อยบริการนักท่องเที่ยวในราคาย่อมเยา

จุดเด่น
- ชายหาดมีความยาวและกว้างมาก
- เป็นชายหาดที่เป็น ที่นิยมของชาวไทยเป็นส่วนใหญ่
- บริเวณหาดมีความร่มรื้นของไม้สนขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก
- ภายในบริเวณเป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยานฯ ทำให้มีความเงียบสงบพอสมควร 
- มีบังกะโล และเต็นท์สนาม ของอุทยานฯ ไว้ค่อยบริเวณนักท่องเที่ยว
- มีโรงแรมขนาดกลางอยู่ในบริเวณใกล้ๆหาด ประมาณ 2-3 แห่ง
- มีร้านอาหารที่เปิดเป็นซุ่มเล็กๆตรงหน้าชายหาดอยู่พอสมควร
- มีแพ็คเกจทัวร์ไว้ค่อยบริเวณนักท่องเที่ยว แต่ไม่ได้ตั้งอยู่ในบริเวณเขตอุทยาน
- มีจุดรับส่งนักท่องเที่ยวหรือแท็กซี่บริการนักท่องเที่ยว แต่ไม่ได้ตั้งอยู่ในบริเวณเขตอุทยาน
จุดด้อย
- เม็ดทรายบริเวณชายหาดมีความละเอียด แต่ไม่ขาวมากนัก
- ไม่มีแหล่งช๊อปปิ้ง หรือสปาในบริเวณ 
- บริเวณหาดอยู่ติดกับสนามบิน ทำให้เกิดเสียงรบกวนอยู่บ้างพอสมควร

การเดินทาง
หาดในยางอยู่ติดกับสนามบิน หรือจะเรียกได้ว่าอยู่ในบริเวณเดียวกันก็ได้ และอยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 30 กิโลเมตรตามถนนสายหลัก สามารถเดินทางไปถึงหาดได้ทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์

หาดในทอน

หาดในทอน เป็นอีกหนึ่งหาดที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถไปทางทิศใต้ ประมาณ 6 กิโลเมตร นับจากที่ทำการอุทยานที่อยู่ ในบริเวณหาดในยาง หาดในทอนเป็นอีกหนึ่งหาดที่มีเม็ดทรายขาวละเอียด บริเวณเหนือหาดมีทิวสนขึ้นสลับกันประปราย หาดในทอนนับเป็น อีกหนึ่งมุมสงบของหาดในเกาะภูเก็ตแห่งนี้

จุดเด่น
- มีความเงียบสงบมาก
- หาดทรายสีขาวละเอียด
- มีโรงแรมขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลางอยู่บริเวณตรงข้ามชายหาดอยู่พอประมาณ
- มีร่มชายหาดไว้ค่อยบริการนักท่องเที่ยว
- มีแหล่งช๊อปปิ้ง แพ็คเกจทัวร์ 
- มีร้านอาหารขนาดเล็กอยู่พอสมควร
จุดด้อย
- การเดินทางไปยังหาดมีระยะทางค่อนข้างไกล หากนับจากทางถนนสายหลัก

การเดินทาง
การเดินทางมายังหาดในทอน หากเดินทางมาจากตัวเมือง จากอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีท้าวศรีสุนทร ใช้เส้นทางถนนสายหลักไปยังสนามบิน เมื่อถึงสามแยกทางไปสนามบิน ให้เลี้ยวซ้ายประมาณ 1 กิโลเมตร (ทางเข้าหาดในยางจะอยู่ทางเลี้ยวซ้ายนี้เช่นกัน ประมาณ 100 เมตร ทางซ้ายมือ) จะถึงซอยทางเข้าหาดในทอนทางซ้ายมือ โดยภายในซอยจะพบทางแยกอีกครั้ง จากทางแยกนี้ให้เลี้ยวซ้ายอีกครั้งอีกประมาณ 3 กิโลเมตร ก็จะพบหาดในทอนติดถนนเรียบชายหาด

หาดในหาน

หาดในหาน เป็นหาดที่อยู่ถัดจากแหลมพรหมเทพขึ้นไปทางทิศเหนือ ใกล้ๆหาดจะมีบึงขนาดใหญ่อยู่ ซึ้งชาวบ้านเรียกว่าหนองหาน หาดในหาน เป็นชายหาดทีมีความยาวพอสมควร เมื่อเทียบกับอ่าวเสนซึ้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน เป็นที่นิยมสำหรับนอนอาบแดดของชาวต่างชาติ หาดทรายไม่ขาวมากแต่มีเม็ดทรายเล็กละเอียด มีแหล่งขายของที่ระลึกในบริเวณรอบ ใกล้ๆกับหาดในหานนี้ยังมีอ่าวเล็กๆ ซึ้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียง คืออ่าวเสน ในช่วงฤดูมรสุมระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม จะมี คลื่นแรงมาก ไม่เหมาะสำหรับการลงเล่นน้ำ

จุดเด่น
- บริเวณหาดมีเม็ดทรายสีขาวละเอียด
- มีร้านอาหารขนาดเล็ก เป็นจำนวนมาก
- มีโรงแรมรองรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง
- มีจุดรับส่งนักท่องเที่ยวหรือแท็กซี่
- สามารถเดินทางข้ามไปยัง อ่าวเสน ได้เพียงไม่กี่นาที เนื่องจากเป็นหาดที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน
- ก่อนถึงชายหาดจะมีบึงน้ำขนาดใหญ่ ซึ้งชาวบ้านเรียกว่าหนองหาน เป็นจุดเด่นที่เห็นได้ชัดก่อนถึงบริเวณหาด
- ภายในบริเวณยังมีจุดชมวิวกังหันลมขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถมองเห็นหาดในหานได้ชัดเจน และยังสามารถมองเห็นหาดยะนุ้ยได้เช่นเดียวกัน
จุดด้อย
- จุดจอดรถ ทั้งรถยนต์และรถจักายานยนต์มีน้อย
- กิจกรรมทางชายหาดต่างๆค่อนข้างน้อย

การเดินทาง
สามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง หาดในหานอยู่ห่างจากตัวเมือง ประมาณ 18 กิโลเมตร หากมาทางหาดราไวย์ จะผ่านหรือไม่ผ่าน แหลมพรหมเทพก็ได้ หากไม่ผ่านแหลมพรหมเทพ ขับตามถนนสายหลักมาเรื่อยๆจะอยู่ห่างจากหาดราไวย์ประมาณ 3 กิโลเมตร หรือประมาณ 10 นาที หรืออีกเส้นทางหนึง สามารถขับมาทางหาดกะตะได้เช่นกัน แต่จะมีระยะทางที่ไกลกว่า ประมาณ 9 กิโลเมตร หรือประมาณ 20 นาที สามารถเดินทางไปถึงหาดได้ทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์

แหลมสิงห์

แหลมสิงห์ มีชายหาดไม่กว้างมากนัก อยู่ระหว่างหาดสุรินทร์และหาดกมลา เดินทางจากหาดกมลาประมาณ 15 นาที หรือหาดสุรินทร์ประมาณ 10 นาที โดยทางเดินลงหาด จะมีทางเข้าสองทาง ทางแรกจะมีแผนป้ายทางหลวงเป็นจุดบอกทางเข้า และอีกทางจะมีโขดหินและต้นไม้ขนาดใหญ่ เป็นจุดบอกทางเข้า ไปยังหาดแหลมสิงห์ ทั้งสองทางจะต้องเดินเท้าลงบันได และลัดเลาะป่าไปยังบริเวณหาด แหลมสิงห์จัดได้ว่าเป็นหาด ที่สวยงามแห่งหนึ่ง ที่มีน้ำทะเลสีฟ้าครามสดใส เม็ดทรายขาวละเอียด โดยบริเวณหาดจะพบกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เล่นน้ำหรือ นอนอาบแดดเป็นส่วนใหญ่ แหลมสิงห์นับว่าเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวของชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก

จุดเด่น
- บริเวณหาดมีเม็ดทรายทสีขาวและละเอียดมาก
- ตรงจุดขึ้นลงหาดบริเวณริมเชิงเขามีจุดรับส่งหรือแท็กซี่บริการนักท่องเที่ยว
- มีร้านอาหารขนาดเล็กอยู่บริเวณหน้าหาดประมาณ 7-8 ร้าน
- บริเวณหาดให้ความรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก เนื่องจากถูกล้อมรอบไปด้วยป่าไม้ธรรมชาตินานาพันธุ์
- เป็นที่นิยมและรู้จักของนักท่อวเที่ยวชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก
- มีทางเดินจากเนินเขาลงไปยังหน้าหาด อยู่สองทาง
- บริเวณหาดมีร่มชายหาดไว้บริการนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก 
- ฤดูท่องเที่ยว มีเพ็คเกจทัวร์เพื่อเดินทางไปชมปะการัง ณ บริเวณเกาะแววจากหน้าหาดแหลมสิงห์ได้
จุดด้อย
- การเดินทางไปยังหน้าหาดค่อนข้างลำบากเนื่องจากต้องเดินทางผ่านแนวป่าธรรมชาติลงไปยังเนินเขาประมาณ 50 เมตร
- ทางเข้าค่อนข้างหายากเนื่องจากหาดอยู่บริเวณริมเชิงเขา และมีป้ายบอกทางลงเพียงนิดเดียว
- บริเวณหาดมีความยาวไม่มากนัก 
- ไม่มีแหล่งช็อปปิ้งใดๆในบริเวณชายหาด 
- หากเดินทางมาโดยรถยนต์ จะหาที่จอดรถค่อนข้างยากเนื่องจากไม่มีจุดจอดรถที่เตรียมไว้ให้สำหรับนักท่องเที่ยว และทางเข้าทั้งสองทางเข้า ก็ตั้งอยู่บริเวณโค้งของถนนหลวงอีกด้วย

การเดินทาง
การเดินทางมี 2 เส้นทาง หากมาจากหาดป่าตอง ผ่านหาดกะหลิมประมาณ 20 นาที ก่อนจะถึงหาดสุรินทร์เล็กน้อย อยู่ด้านซ้ายมือ ส่วนอีกเส้นทางหนึ่ง เดินทางจากอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีท้าวศรีสุนทร ผ่านหาดสุรินทร์ประมาณ 5 นาที อยู่ทางด้านขวามือ ไม่สามารถเิดินทางโดยยานพาหนะ ต้องเดินเ้ท้าเข้าสู่ชายหาด

แหลมกา

แหลมกา ตรงบริเวณทางเข้าชายหาด เป็นทางเข้าเล็กๆที่แถบจะมองไม่ออกเลยว่ามีชายหาดเล็กๆอยู่ในบริเวณนี้ แหลมกานับได้ว่าเป็นชายหาด ยุคแรกๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวของเกาะภูเก็ตเลยก็ว่าได้ แหลมกาเป็นหาดที่สงบเงียบ และไม่ยาวมากนัก หาดมีโขดหินน้อยใหญ่เรียงราย อยู่เต็มบริเวณ น้ำทะเลใส สงบ เป็นที่นิยมในการผักผ่อนย่อนใจของชาวภูเก็ต ซึ้งมักจะมาเป็นครอบครัว มาเป็นเวลายาวนาน แต่ไม่เป็นที่นิยม ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่าไรนัก หาดแหลมกามีเวลาเข้า-ออกของชายหาด เนื่องจากทางเข้าชายหาด เป็นที่ดินส่วนบุคคล

จุดเด่น
- เป็นชายหาดที่เป็นจุดพักผ่อนของชาวภูเก็ตในรูปแบบครอบครัวเป็นส่วนใหญ่
- มีความเงียบสงบมาก เนื่องจากไม่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว
- อยู่ใกล้หาดราไวย์ เพียงประมาณ 500 เมตร
- มีโรงแรมขนาดกลางอยู่ในบริเวณหาด
จุดด้อย
- ทางเข้าหาดสาธารณะเป็นที่ดินส่วนบุคคล ทำให้มีเวลาเข้าออกของชายหาด และเป็นถนนในซอยเป็นระยะทางพอสมควร
- ทางเข้าบริเวณชายหาดเป็นเพียงทางเข้าเล็กๆ ค่อนข้างหายาก
- เม็ดทรายบริเวณหาดไม่ขาวมาก
- ไม่มีแหล่งช๊อปปิ้ง ร้านอาหาร สปา หรือแพ็คเกจทัวร์ใดๆในบริเวณหน้าหาดเลย 
- ไม่มีจุดรับส่งนักท่องเที่ยวหรือแท็กซี่บริการนักท่องเที่ยว

การเดินทาง
หาดแหลมกาอยู่ห่างจากตัวเมือง ประมาณ 16 กิโลเมตร จากวงเวียนห้าแยกฉลอง ตรงไปทางเส้นทางถนนวิเศษ ก่อนถึงหาดราไวย์ ประมาณ 500 เมตร ทางเข้าจะอยู่ทางซ้ายมือตรงข้ามกับวัดสว่าง ทางเข้าต้องเดินทางเข้าถนนในซอยอีกประมาณ 1 กิโลเมตร โดยมีเวลาเข้า-ออก สามารถเดินทางไปถึงหาดได้ทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์

หาดกะตะน้อย

หาดกะตะน้อย เป็นชายหาดที่อยู่ถัดจากหาดกะตะ ใช้เวลาเดินทางจากหาดกะตะเพียง 5 นาที หาดกะตะน้อยเป็นชายหาดที่มีทรายสีขาวละเอียด เป็นหาดเล็กๆ หาดหนึ่งที่มีความสวยงาม และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่แพ้หาดกะตะ

จุดเด่น
- เป็นอีกหนึ่งชายหาดที่มีชื่อเสียงมากของภูเก็ต
- เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวของชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก
- บริเวณหาดมีเม็ดทรายสีขาวละเอียด
- เหมาะสำหรับกิจกรรมเล่นน้ำตามชายฝั่ง
- มีแหล่งช๊อปปิ้ง ร้านอาหาร สปา ขนาดเล็กไว้ค่อยบริการนักท่องเที่ยว
- มีโรงแรมรองรับนักท่องเที่ยวทั้งขนาดเล็กและขนาดกลาง
- สามารถเดินทางไปยัง หาดกะตะ หาดกะรน ได้ เพียงไม่กี่นาที เนื่องจากเป็นหาดที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน
- มีจุดรับส่งนักท่องเที่ยวหรือแท็กซี่บริการนักท่องเที่ยวเล็กน้อย
จุดด้อย
- เป็นชายหาดที่อยู่สุดสายถนน ถััดจากหาดกะตะไปทางใต้ ทำให้การเดินทางออกจากหาดไปยัง ณ จุดท่องเที่ยวอื่นๆ มีเพียงเส้นทางเดียว
- ทิวทัศน์หน้าหาดส่วนใหญ่จะถูกบดบังด้วยโรงแรม
- ทางสาธารณะเข้าหน้าหาดเป็นเพียงทางเข้าเล็กๆ แต่สามารถมองเห็นหาดได้จากทางเข้า เนื่องจากเส้นทางเิดินเ้ข้าหาดไม่ยาวมากนัก
- จุดจอดรถ ทั้งรถยนต์และรถจักายานยนต์มีน้อย

การเดินทาง
การเดินมางมายังหาดกะตะน้อย สามารถเดินทางมาจากถนนสายหลักได้เพียงเส้นทางเดียว หากมาทางหาดกะตะ ขับรถมาตามถนนสายหลัก ลงมาทางใต้ จะอยู่ถัดจากหาดประมาณ 5 นาที สามารถเดินทางไปถึงหาดได้ทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ แต่สำหรับจุดจอดรถยนต์ จะห่างจากชายหาดประมาณเล็กน้อย

หาดกะตะ

หาดกะตะ เป็นชายหาดที่อยู่ระหว่างหาดกะตะน้อยและหาดกะรน โดยใช้เวลาเดินทางเพียงไม่กี่นาทีระหว่างทั้งสามหาด หาดกะตะเป็นชายหาด ที่มีชื้อเสียงแห่งหนึ่งของภูเก็ต มีเม็ดทรายสีขาวและละเอียดสวยงาม บริเวณชายหาดมีต้นปาล์มขึ้นเป็นแนวตามชายหาด สวยงามเป็นที่นิยม พักผ่อนของชาวต่างชาติ บริเวณชายหาดมีบ้านพัก บริษัทนำเที่ยว ร้านค้า แหล่งบันเทิง ไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยวอย่างครบครัน

จุดเด่น
- เป็นอีกหนึ่งชายหาดที่มีชื่อเสียงมากของภูเก็ต
- บริเวณหาดมีเม็ดทรายสีขาวละเอียด
- เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
- มีแหล่งช๊อปปิ้ง ร้านอาหาร แพ็คเกจทัวร์ สปา ทั้งขนาดเล็กและขนาดกลางเป็นจำนวนมาก
- มีโรงแรมรองรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก
- เหมาะสำหรับทำกิจกรรมตามชายหาดทุกรูปแบบ
- สามารถเดินทางข้ามไปยัง หาดกะตะน้อย หาดกะรน ได้ เพียงไม่กี่นาที เนื่องจากเป็นหาดที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน
- มีแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีสำหรับนักท่องเที่ยว
- มีจุดรับส่งนักท่องเที่ยวหรือแท็กซี่บริการนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก
จุดด้อย
- ที่จอดรถค่อนข้างน้อย
- ถนนหน้าหาดค่อนข้างแคบ
- ช่วงเทศกาลหรือเป็นวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ นักท่องเที่ยวค่อนข้างหนาแน่น

การเดินทาง
การเดินมางมายังหาดกะตะ สามารถเดินทางมาจากถนนสายหลักได้ทั้งสองเส้นทาง หากมาทางหาดกะรน ขับรถมาตามถนนสายหลัก จะอยู่ถััด จากหาดกะรนไปทางด้านทิศใต้เพียงประมาณ 5 นาที หรืออีกเส้นทางหนึ่งสามารถเดินทางมาจากหาดกะตะน้อย ได้ โดยจะใช้เวลาประมาณ 5 นาที เช่นกัน สามารถเดินทางไปถึงหาดได้ทั้งรถยนต์และ รถจักรยานยนต์

หาดกะรน

หาดกะรน เป็นชายหาดที่ยาวที่สุดในเกาะภูเก็ต อยู่ถัดจากหาดกะตะไปทางเหนือ มีเพียงเนินเขาเตี้ย ๆ คั่นอยู่เท่านั้น เหนือชายหาด มีสนทะเล และต้นตาลขึ้นเรียงรายอยู่โดยทั่วไป บริเวณหาดมีเม็ดทรายที่ขาวและละเอียดมาก บริเวณหาดมีคลื่นลมแรง จึงไม่เป็นที่นิยมในการเล่นน้ำมากนัก นักท่องเทียวนิยมนอนอาบแดด เดินผ่อนคลายบริเวณริมหาดเป็นส่วนใหญ่ บริเวณหาดยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพรียบพร้อม แหล่งช้อปปิ้ง และร้านค้าอยู่บริเวณวงเวียนด้านขวาสุดของหาด รวมทั้งสถานบันเทิงยามค่ำคืนอีกด้วย

จุดเด่น
- เป็นอีกหนึ่งชายหาดที่มีชื่อเสียงมากของภูเก็ต
- บริเวณหาดมีเม็ดทรายสีขาวและละเอียดมาก
- เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก
- มีโรงแรมรองรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก
- มีแหล่งช๊อปปิ้ง ร้านอาหาร แพ็คเกจทัวร์ สปา ทั้งขนาดเล็กและขนาดกลางเป็นจำนวนมาก
- มีแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีสำหรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
- มีจุดรับส่งนักท่องเที่ยวหรือแท็กซี่บริการนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก
- สามารถเดินทางไปยัง หาดกะตะ  หาดกะตะน้อย ได้ เพียงไม่กี่นาที เนื่องจากเป็นหาดที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน
จุดด้อย
- ไม่เป็นที่นิยมสำหรับเล่นน้ำตามชายฝั่ง เนื่องจากมีคลื่นลมแรง

การเดินทาง
การเดินมางมายังหาดกะรน สามารถเดินทางมาจากถนนสายหลักได้ทั้งสองเส้นทาง หากมาทางหาดกะตะขับรถมาตามถนนสายหลัก จะอยู่ถัด จากหาดกะตะไปทางด้านทิศเหนือเพียงประมาณ 5 นาที หรืออีกเส้นทางหนึ่งสามารถเดินทางมาจากหาดป่าตองได้เช่นกัน โดยจะใช้เวลา ประมาณ 20 นาที สามารถเดินทางไปถึงหาดได้ทั้งรถยนต์และ รถจักรยานยนต์

หาดบางเทา

หาดบางเทา เป็นหาดที่มีความยาวมากที่สุดแห่งหนึ่งของภูเก็ต และเป็นหาดที่เงียบสงบอยู่ริมเชิงเขา มีต้นสนทะเลเรียงรายอยู่บริเวณเหนือหาด บริเวณชายหาดเม็ดทรายไม่ละเอียดเท่าไร แต่มีความขาวมาก พื้นที่บางส่วนได้ถูกพัฒนาเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทหรูหราระดับ 5 ดาวหลายแห่ง จึงเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาก แต่ในฤดูที่มีมรสุม คลื่นค่อนข้างแรง ไม่แนะนำให้ลงเล่นน้ำในทะเล สำหรับผู้ที่ชื่นชอบ การดำน้ำชมปะการังนอกชายฝั่งทางตอนเหนือของอ่าวก็มีปะการังที่สวยงามเช่นกัน

จุดเด่น
- บริเวณใกล้ๆหาดมีโรงแรมภูเก็ตขนาด 5 ดาวหลายแห่งไว้บริการ
- มีร้านอาหารบริการนักท่องเที่ยวหลายแห่งด้วยกัน
- เม็ดทรายบริเวณหาดมีความขาวแต่ไม่ละเอียดมากนัก
- มีแหล่งช็อปปิ้งขนาดเล็ก
- มีจุดรับส่งนักท่องเที่ยวหรือแท็กซี่
- เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มีระดับเป็นส่วนใหญ่โดยเฉพาะชาวต่างชาติ
จุดด้อย
- บริเวณทางเข้าชายหาดค่อนข้างจะหายาก เนื่องจากบริเวณรอบๆเต็มไปด้วยโรงแรมขนาด 5 ดาวหลายแห่ง
- ไม่มีร่มชายหาดไว้บริการนักท่องเที่ยวทั่วไป โดยร่มชายหาดส่วนใหญ่จะเป็นของโรงแรมที่ไว้บริการนักท่องเที่ยวของโรงแรมเท่านั้น

การเดินทาง
หาดบางเทาสามารถเข้าถึงได้สองทาง โดยทางแรกจะอยู่ถัดจากหาดสุรินทร์ โดยเมื่อถึงหาดสุรินทร์ให้เลี้ยวไปทางขวามืออีกประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะพบกับหาดบางเทา หรือทางเข้าอีกทาง สามารถไปทางบริเวณหน้าโรงแรมดุสิตลากูน่า ทางเข้าจะอยู่ทางขวามือจากป้ายโรงแรม สามารถลัดเลาะไปถึงบริเวณหน้าชายหาดได้เช่นกัน สามารถเดินทางเข้าถึงได้ทั้งรถยนต์และ รถจักรยานยนต์

อ่าวยนต์

อ่าวยนต์ ก็นับว่าเป็นอ่าวเล็กๆ ที่มีชายหาด 2 หาด ถัดจากเขาขาด อยู่ทางทิศใต้ของเกาะภูเก็ต บริเวณแหลมพันวา ห่างจากตัวเมืองประมาณ 10 กิโลเมตร โดยทางไปสามารถไปยังจุดชมวิว 360 องศาได้เพียง 10 นาที และถนนไปยังอ่าวยนต์ ยังมีทิวทัศน์ที่สวยงาม เพราะเป็นถนน เรียบไปกับชายหาดที่เงียบสงบ แต่จะต้องเป็นถนนที่เข้าทาง "ซอยบ้านบ่อแร่" อ่าวยนต์เป็นอ่าวที่ค่อนข้างสงบ น้ำทะเลสีคราม เหมาะสำหรับ ที่จะดูพระอาทิตย์ตกอีกแห่งหนึ่งของภูเก็ต แต่ไม่เป็นที่นิยมในการเล่นน้ำ หรือผักผ่อนตามแนวชายหาดของนักท่องเที่ยวเท่าไรนัก บริเวณอ่าว จะเป็นจุดพักเรื่อตากอากาศเป็นส่วนมาก แต่ก็ยังมีโรงแรม ห้องพักให้ค่อยบริการ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสงบเช่นกัน

จุดเด่น
- ทิวทัศน์ข้างทางของการเดินทางไปยังหาดมีความสวยงาม เนื่องจากเป็นถนนเรียบชายหาด
- บริเวณหาดเหมาะสำหรับเล่นน้ำ เนื่องจากยังคงมีความเป็นธรรมชาติสูง เม็ดทรายมีความละเอียด และมีความขาวอยู่พอสมควร
- บรรยากาศสงบเงียบมาก เนื่องจากไม่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเท่าไรนัก
- มีแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณใกล้เคียงคือ จุดชมวิวเขาขาด 360 องศา และ สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำภูเก็ต
- เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีเรือยอร์ชเป็นส่วนใหญ่
- บริเวณใกล้ๆหาด ยังคงมีโรงแรม ที่พักตากอากาศอยู่บ้าง สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความเงียบสงบ และเป็นธรรมชาติ
จุดด้อย
- ทางเข้าหน้าชายหาด ทางสาธารณะจะอยู่ริมสุดของหาด โดยจะต้องเดินข้ามโขดหินเป็นระยะสั้นๆ เนื่องจากหน้าหาดติดกับผาสูง และเป็นที่ดินส่วนบุคคลเกือบทั้งหมด
- มีบริการร่มชายหาดอยู่น้อยมาก นอกเหนือจากนี้ไม่มีกิจกรรมหรือบริการตามชายหาดใดๆเลยในบริเวณนี้
- ชายหาดไม่ได้อยู่บนถนนสายหลัก จึงทำให้ไม่เป็นที่นิยมหรือรู้จักของนักท่องเที่ยวเท่าไรนัก
- ไม่มีแหล่งช๊อปปิ้ง แพ็คเกจทัวร์ หรือ ร้านอาหารสำหรับบริการนักท่องเที่ยว
- ไม่มีจุดรับส่งนักท่องเที่ยวหรือแท็กซี่บริการนักท่องเที่ยวในบริเวณหาดเลย
- เนื่องจากบริเวณหาดไม่ได้อยู่บนถนนสายหลัก และไม่มีสถานบันเทิงยามราตรีสำหรับนักท่องเที่ยวใดๆ จึงไม่เหมาะสำหรับ การเดินทางไปยังหาดในยามค่ำคืน

การเดินทาง
อ่าวยนต์ ไม่ได้ตั้งอยู่บนถนนสายหลัก ทางเข้าสามารถเข้าถึงจากถนนสายรองได้หลายเส้นทาง โดยทางที่ใกล้ที่สุดจะมีอยู่สองเส้นทาง โดยหากขับมาจากทางตัวเมืองจะพบเส้นทางเข้า ผ่านทางซอย "บ้านบ่อแร่" ซึ่งจากถนนสายนี้จะพบกับถนนเรียบชายหาดและจุดพักชมวิว เป็นระยะทางไม่ไกลมาก แต่ก็ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก และอีกเส้นทางหากขับมาจากแหลมพันวา หรือจากหาดอ่าวมะขาม จะพบอีกเส้นทาง โดยผ่านทางซอย "ถนนอ่าวยนต์เขาขาด" ซึ่งจากเส้นทางนี้จะมีระยะใกล้กว่าทางซอย "บ้านบ่อแร่" สามารถมาถึงหาดได้ทั้งรถยนต์และ รถจักรยานยนต์

อ่าวเสน

อ่าวเสน เป็นอ่าวเล็กๆ ติดกับหาดในหานขึ้นไปทางขวา โดยทางไปต้องผ่านโรงแรมภูเก็ตยอช์ทคลับ อ่าวเสนนับเป็นจุดสิ้นสุดของสายถนน บริเวณหาด เป็นชายหาดที่ค่อนข้างเล็ก ชาดหาดเรียงรายไปด้วยโขดหินน้อยใหญ่ หาดทรายไม่ขาวมาก ใน บริวณหาดจะมีเพียงร้านอาหาร และบังกะโลเล็กๆ ให้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสงบเรียบง่าย และต้องการความเป็นส่วนตัว

จุดเด่น
- บริเวณหาดมีความเงียบสงบมาก มีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก
- มีร้านอาหารเพียงหนึ่งร้าน และบังกะโลขนาดเล็กไว้ค่อยบริการนักท่องเที่ยว อยู่ที่บริเวณหน้าชายหาด
- มีโรงแรมขนาดกลางตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงชายหาด
- สามารถเดินทางข้ามไปยัง หาดในหาน ได้เพียงไม่กี่นาที เนื่องจากเป็นหาดที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน
จุดด้อย
- ชายหาดมีขนาดเล็กมากมีความยาว ประมาณ 50 เมตร
- เม็ดทรายบริเวณหาดค่อนข้างหยาบ และไม่ขาวมากนัก 
- ไม่มีแหล่งช้อปปิ้งในบริเวณ
- ไม่มีจุดรับส่งนักท่องเที่ยวหรือแท็กซี่ไว้ค่อยบริการนักท่องเที่ยว

การเดินทาง
สามารถเดินทางไปถึงบริเวณหน้าหาดได้เพียงทางเดียว อ่าวเสนอยู่ถัดจากหาดในหานขึ้นไปทางขวาประมาณ 5 นาที โดยจำเป็นต้องผ่าน โรงแรมภูเก็ตยอช์ทคลับ การเดินทางไปถึงหาด สามารถไปได้ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์

หาดกมลา

หาดกมลา เป็นอีกหนึ่งชายหาดที่มีความเงียบสงบ หาดกมลาอยู่ถัดลงมาทางใต้ของหาดสุรินทร์ เป็นหาดทรายที่มีเม็ดทรายไม่ละเอียดมากนัก มียาวความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร และที่หาดกมลาแห่งนี้ยังมีอนุสรณ์สถานสึนามิ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อสะท้อนถึงพิบัติภัยคลื่นยักษ์ ที่เคยเกิดขึ้นที่ชาดหาดแห่งนี้ เป็นประติมากรรมชื่อว่า จิตจักรวาล บริเวณเหนือหาดยังมีที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว อย่างครบครัน

จุดเด่น
- นักท่องเที่ยวไม่หนาแน่นมากนัก เหมาะสำหรับการพักผ่อนในบรรยากาศครอบครัว
- มีร้านอาหารขนาดเล็กหลากหลายร้าน ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทยหรืออาหารฝรั่งอยู่รอบๆบริเวณหาด
- มีโรงแรมขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง รวมไปถึงอพาร์ทเมนต์ให้เช่าพอสมควร
- มีแหล่งช๊อปปิ้ง สปา มินิบาร์ ขนาดเล็กเป็นจำนวนมาก 
- เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่มาพักผ่อนระยะยาวเป็นส่วนใหญ่
- มีจุดรับส่งนักท่องเที่ยวหรือแท็กซี่
- มีสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมประเภทการแสดงโชว์ (ภูเก็ตแฟนตาซี) อยู่ในบริเวณใกล้เคียง
จุดด้อย
- เม็ดทรายบริเวณหาดมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ไม่ขาวละเอียด
- ไม่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากนัก หากเทียบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับสากล ในระดับเดียวกัน เช่น หาดกะตะ หาดกะรน

การเดินทาง
หาดกมลา สามารถเดินทางจากถนนหลักได้ทั้งสองทาง ทั้งจากการเดินทางมาจากหาดป่าตองผ่านหาดกะหลิมขับผ่านไปตามถนนหลัก ก็จะพบหาดกมลา หรือหากเริ่มการเดินทางจากอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีท้าวศรีสุนทร มาตามถนนหลัก จะอยู่ถัดลงมาทางใต้ของหาดสุรินทร์ และห่างจากแหลมสิงห์ประมาณ 1 กิโลเมตร นับเป็นหาดทางฝั่งเหนือของภูเก็ต สามารถเดินทางไปถึงหาดได้ทั้งรถยนต์และ รถจักรยานยนต์

หาดป่าตอง

หาดป่าตอง เป็นชายหาดที่มีชื้อเสียงมากที่สุดของเกาะภูเก็ต และยังเป็นสถานที่ผักผ่อนที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาผักผ่อนตลอดทั้งปีอีกด้วย ภายในบริเวณมี่บ้านพัก โรงแรม บริษัทนำเที่ยว ร้านค้า ร้านอาหาร แหล่งบันเทิงยามค่ำคืนไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยว ที่อาจจะเรียกได้ว่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยว 24 ชม. เลยก็ว่าได้ ณ บริเวณชายหาดยังมีหาดทรายขาวละเอียด เหมาะสำหรับเล่นน้ำทะเล และยังมีกิจกรรมทางทะเล ไม่ว่าจะเป็น เจสกี สปีดโบท และอื่นๆอีกมากมาย ไว้สำหรับรองรับนักท่องเที่ยว อย่างครบครัน

จุดเด่น
- เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากที่สุดของภูเก็ต
- บริเวณหาดมีเม็ดทรายสีขาวละเอียด
- มีแหล่งช๊อปปิ้ง ร้านอาหาร แพ็คเกจทัวร์ สปา ทั้งขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก
- มีโรงแรมรองรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก
- มีกิจกรรมท่องเที่ยวตามชายหาดทุกรูปแบบ
- สามารถเดินทางข้ามไปยัง หาดพาราไดส์ ภูเก็ต ได้ เพียงไม่กี่นาที เนื่องจากเป็นหาดที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน
- มีแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีสำหรับนักท่องเที่ยวทุกรูปแบบและเป็นจำนวนมาก
- มีจุดรับส่งนักท่องเที่ยวหรือแท็กซี่บริการนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก
จุดด้อย
- ที่จอดรถมีจำนวนมากแต่ก็ยังไม่ยังไม่พอสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมาก
- ช่วงเทศกาลพิเศษจะมีนักท่องเที่ยวหนาแน่นมาก

การเดินทาง
การเดินทางมายังหาดป่าตองสามารถมาถึงได้จากสามทางหลัก หากเดินทางมาจากตัวเมืองโดยนับจาก"สนามกีฬาสุระกุลภูเก็ต" จะใช้เวลา ประมาณ 25 นาที หรืออีกเส้นทางที่สองสามารถเดินทางจากหาดกะรนจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที และอีกเส้นทางที่สามสามารถเดินทาง มาจากหาดกมลาโดยจะใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเช่นกัน โดยทั้งสามทางสามารถเดินทางไปถึงหาดได้ทั้งรถยนต์และ รถจักรยานยนต์

วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2556

แหลมพรหมเทพ

แหลมพรหมเทพ หากใครได้มีโอกาสมาเที่ยวภูเก็ตแล้วไม่ได้มาชมอาทิตย์อัสดงที่ แหลมพรหมเทพ ถือว่ายังมาไม่ถึงหรือ เรียกว่า เป็นเป็นการท่องเที่ยวที่ยังไม่สมบูรณ์ตามแบบฉบับของการมาเที่ยวเมืิองภูเก็ต แหลมพรหมเทพจัดเป็นหนึ่งใน จุดชมอาทิตย์ตกก่อนใครที่สวยที่สุดในเมืองไทย เป็นแหลมที่อยู่ใต้สุดของเกาะภูเก็ตห่างจากตัวเมืองประมาณ 19 กม.มีลักษณะเป็นแหลมโค้งไล่ระดับทอดตัวสู่ท้องทะเล รอบข้างแวดล้อมด้วยต้นตาลที่ขึ้นแทรกอยู่เรียงรายตาม ต้นหญ้าที่พัดพลิ้วด้านขวาเป็นหาดในหานและเกาะมัน ส่วนด้านซ้ายจะมองเห็นหาดในยะซึ่งเป็นหาดเล็ก ๆโดย ทั่วไป นักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเที่ยวหรือพักที่หาดใด พอช่วงใกล้เย็นพากันมาชมพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ หากมาเที่ยวในวันที่อากาศดี ท้องฟ้าเปิด มีเมฆน้อย บรรยากาศพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพจะสวยงามมาก หากมาในฤดูร้อนมีทุ่งหญ้าสีทองขึ้นปกคลุมสวยงามมาก มองเห็นเกาะแก้วน้อย เกาะแก้วใหญ่และเกามัน ส่วน ในฤดูฝนจะเป็น เป็นสีเขียวรอบๆ แหลมพรหมเทพเป็นโขดหินขนาดใหญ่ยามคลื่นลมแรงจะเห็นฟองคลื่นสีขาว กระทบโขดหินงดงามยิ่งนัก

ก่อนถึงแหลมพรหมเทพจะผ่านหาดราไวย์อาจแวะชมทิวทัศน์ที่หาดราไวย์ หรือนั่งรับประทานอาหารเย็นรับลม ทะเล ก่อนขึ้นเขาไปแหลมพรหมเทพ ระยะทางขึ้นประมาณ 695 เมตร มีลานจอดรถ จากลานจอดรถมี บันได ขึ้นไป ยังเนินเขา เพื่อชมวิวพระอาทิตย์ตก ก่อนพระอาทิตย์ตกนักท่องเที่ยวอาจเดินชมวิวอยู่ด้านบนถนน หรืออาจจะลง ไป ชมวิวที่ปลาย แหลมก็ต้องเดินลงไปอีกประมาณ 1 ก.ม. ซึ่งระยะทางการเดินก็ค่อนข้างชัน ต้องเดินลงไปด้วย ความระมัดระวัง

นอกจากความงามยามดวงตะวันลับฟ้าแล้ว แหลมพรหมเทพยังมี ประภาคารกาญจนาภิเษก เป็นอีกหนึ่งจุดสนใจ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติทรงครองราชย์ 50 ปีแล้ว ประภาคารแห่งนี้ยังใช้เป็นเครื่องหมายในการเดินเรือ เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางของเส้นทางคมนาคมทางทะเลที่สำคัญแห่งท้องทะเลอันดามัน ภายใน

สิ่งอำนวยความสะดวก
มีลานจอดรถกว้างขวางคอยให้บริการนักท่องเที่ยว ใกล้กับลานจอดรถมีร้านขายของที่ระลึก มีร้านอาหารและ เครื่องดื่ม คอยให้บริการหลายร้าน

การเดินทางไปแหลมพรหมเทพ
1.โดยรถยนต์ส่วนตัว
จากตัวเมืองภูเก็ตไปตามทางหลวงหมายเลข 4027 และ 4024 ผ่านหาดราไวย์และหาดในยะ จากนั้นตรงไปตาม ทางหลวงหมายเลข 4233 อีกประมาณ 650 ม. ก็ถึงลานจอดรถของแหลมพรหมเทพ ต้องเดินขึ้นบันได ไปบน เนินสูง เพื่อไปจุดชมวิว ถ้าต้องการชมทิวทัศน์ที่ปลายแหลมพรหมเทพ ต้องเดินต่อไปตามทางดินอีกประมาณ 1 กม. หรือจะชม 
2. โดยรถโดยสารประจำทาง
นั่งรถสองแถม สายภูเก็ต-ราไวย์-ในหาน หรืออาจจะเหมารถแท๊กซี่่มาก็ได้

เกาะราชาหรือเกาะรายา

เกาะราชาหรือเกาะรายา เกาะราชาหรือเกาะราชาใหญ่ มีหาดทรายขาวสะอาด มีหาดทางด้านตะวันตกอยู่ระหว่างหุบเขาเป็นรูปคล้าย เกือกม้าเรียกว่า อ่าวปะตก มีหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสสะอาดลักษณะคล้ายทะเลแถบหมู่เกาะสิมิลัน ทางใต้ทางใต้เกาะราชาตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะภูเก็ต ห่างจากเกาะภูเก็ตประมาณ 15 กิโลเมตร มีพื้นที่ ทั้งเกาะกว่า 3,000 ตารางกิโลเมตร มีพื้นราบ และเนินเขา ที่มีความสูงไม่มากนัก ชาวบ้านได้เข้าไปทำการจับจอง ที่ดินทำสวนมะพร้าว สวนผลไม้ และอาศัยอยู่ ที่เกาะราชาใหญ่ประมาณ 16 ครอบครัว ส่วนพื้นที่ราบ ที่อยู่ติด ทะเลชาวบ้าน และนักลงทุนได้พัฒนาบางส่วนเป็นที่พัก และร้านอาหารสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวหากใคร ได้มา เที่ยวภูเก็ต โปรแกรมทัวร์ เกาะราชาหรือรายา เป็นโปรแกรมท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด เกาะราชามีชายหาดที่โค้ง ยาวสวยงามอยู่หลายแห่ง เที่ยวสะดวกเพราะมีเส้นทางเดินเท้าศึกษาธรรมชาติได้รอบเกาะต่างๆ
เกาะราชา 
เกาะราชามีทั้งหมด 3 อ่าว ได้แก่ อ่าวตะวันตก หรือหาดปะตก ,อ่าวสยาม และอ่าวทือ  ซึ่งสามารถเดินติดต่อ กันได้เกาะราชาจะแบ่งออกเป็นอ่าวใหญ่ 5 อ่าว ด้วยกันคือ 

1. อ่าวตะวันตกหรืออ่าวปะตก 
ซึ่งเป็นอ่าวที่สวยงามที่สุดบนเกาะราชา หาดทรายขาวสะอาดนุ่มเท้า เป็นอ่าวที่ เหมาะ กับการนอนชมวิว นั่งอาบแดด และเป็นที่ตั้งของรีสอร์หรู เดอะราชา และรายารีสอร์ท

2.อ่าวสยาม
เป็นอ่าวที่ยาวที่สุดของเกาะใช้เวลาเดินทางจากอ่าวปะตกเพียง 5 นาที อยู่ทางเหนือของเกาะบรรยากาศค่อนข้าง จะเงียบสงบ ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านหาดด้านนี้มีลมพัดเข้ามาตลอด เลยทำให้มีคลื่นค่อนข้างสูงน้ำทะเลเลยดูขุ่น กว่าแต่ก็จะมีเรือนำนักท่องเที่ยวมาจอดแวะดำน้ำกันอยู่ตลอด เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นที่สวยงามที่สามารถ ยืนดูปะการังบนหาด หรือ ก้อนหินได้โดยไม่ต้องสวมหน้ากาก ในช่วงน้ำลงเพราะเมื่อน้ำลดสุดๆปะการังครึ่งอ่าว จะโผล่มาชมท้องฟ้าพร้อมๆกัน

3.อ่าวทือ
เป็นอ่าวเล็กๆ ที่มีชายหาดไม่กว้างมากนัก ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะราชา

4. อ่าวขอนแค
อยู่ทางทิศเป็นจุดดำน้ำที่สวยงามและสมบูรณ์อีกของเกาะราชาจะมีปะการังเขากวาง ประการังอ่อน ที่หาดูได้ยาก

5. อ่าวหลา
หาดเล็กๆยาวประมาณ10-15เมตร ซึ่งเป็นจุดดำน้ำที่สวยที่สุดของเกาะราชาใหญ่
จุดดำน้ำของเกาะราชา่ มีทั้งหมด 3 จุด คือ อ่าวคอนแค,อ่าวหลา(จุดดำน้ำที่สวยที่สุด),และอ่าวสยาม ซึ่งการที่ทาง บริษัททัวร์ จะพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำตรงจุดใดบ้างนั้น ต้องดูช่วงเวลาด้วย ปัจจุบันเกาะราชาใหญ่ได้กลายเป็น แหล่งดำน้ำ ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในทะเลอันดามัน เพราะน้ำทะเลรอบเกาะใสตลอดทั้งปี และมีปะการัง ที่มีความ สวยงามและสัตว์น้ำต่างๆ ที่หายากต่างจากจุดดำน้ำอื่นๆ เช่น ปะการังเขากวาง และปะการังสกุลแข็งชนิดต่างๆ ปลาไหลทะเล ปลากระเบน ปลาปักเป้า ปลาหมึกยักษ์
เกาะราชาน้อย
อยู่ห่างจากเกาะราชาใหญ่ 10 กิโลเมตร เป็นเกาะที่เกิด จากทับถมของหินปะการัง จึงมีโขดหินมากกว่าหาดทราย ทางด้านตะวันตกมีอ่าวเล็ก ๆ สำหรับจอดเรือ น้ำทะเลใสสีเขียวมรกต ไม่เหมาะเล่นน้ำ แต่เป็นแหล่งตกปลาที่มี ปลาชุกชุม

ท่องเที่ยวรอบเกาะราชาใหญ่
การเดินทางท่องเที่ยวรอบอ่าวต่างๆ บนเกาะราชาใหญ่เที่ยวสะดวกมาก เพราะมีเส้นทางเดินเท้าเที่ยวชมธรรมชาติ ได้รอบเกาะใช้เวลาประมาณครึ่งวัน ก็สามารถเที่ยวได้รอบเกาะ โดยหากมาเทีี่ยวในช่วงไฮซีซั่น(พ.ย.-เม.ย.) เริ่มจากอ่าวปะตก เดินๆไปเรื่อยๆผ่านอ่าวสยาม จากอ่าวสยามไปอ่าวทือ ที่อ่าวทือในตอนเช้ามีจุดชมวิว พระอาิทิตย์ขึ้น ที่สวยงาม สามารถมองเห็นเกาะพีพี ได จากอ่าวทือก็ต่อไปยังอ่าวขอนแค และจากอ่าวขอนแคก็ มาบรรจบที่อ่าวปะตก
กิจกรรมที่น่าสนใจบนเกาะราชาใหญ่
- ดำน้ำลึก สะคูบ้า มี Dive site ประมาณ 15 แห่ง รามไปถึงเกาะราชานุ้ย(น้อย) ที่อยู่ติดกัน
- ดำน้ำตื้น สนอคเกอร์ สวยมาก พอๆกับ เกาะเต่า หรือสุรินทร์ หรือสิมิลัน
- ตกปลา หรือตกหมึก อันนี้ก็สนุก ตกแถวชายฝั่ง หรือนั่งเรือตกในคืนเดือนสว่าง
- เดินป่าพักแรม เกาะราชามีภูเขาอยู่กลางเกาะสูงประมาณ 300 กว่า สภาพเป็นป่าดิบ มีจุดชมวิวสวย

การเดินทางมาท่องเที่ยวเกาะราชาหรือเกาะรายา
แบบไปเช้าเย็นกลับ
- เรือสปีดโบท์โดยซื้อทัวร์ืแบบไปเช้าเย็นกลับจากท่าเรืออ่าวฉลอง ซึ่งมีให้เลือกมากมาย หรือหากต้องการ เหมาลำก็คิด อัตราตามจำนวนคนต่อเครื่องยนต์ เช่น 10 -15 คน 1 เครื่องยนต์ ราคาประมาณ 6000-7000 
16 - 30 คน
2 เครื่องยนต์ ราคาประมาณ 10000 - 12000 บาทใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 -40 นาที - เรือหางยาว คิดอัตรา ตาม จำนวนคน ต่อเที่ยว ราคาประมาณ 2000-3000 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 - 1.30 ชม.สถานที่ติดต่อเรือ บริเวณอ่าวฉลองหรือหาดราไวย์

กรณีค้างคืน
กรณีต้องการมาพักค้างคืนเกาะราชาไม่มีเรือโดยสารข้ามฟากจะมีเรือวิ่งประจำเฉพาะเรือทัวร์(1 day tour) และ เรือส่งของและเรือของรีสอร์ทต่างๆ การเดินทางต้องไปกับเรือทัวร์ หรือเรือจากรีสอร์ทต่างๆ

สิ่งอำนวยความสะดวก
เกาะราชาเป็นเกาะอนุรักษ์ไม่มีไฟฟ้าใช้(ใช้เครื่องปั่นไฟในแต่ละสถานที่)มีร้านค้าของชำบริการที่โรงแรมเดอะราชา ราคาสินค้า ค่อนข้างแพงในทุกอย่าง ประมาณ 2 - 3 เท่าของสินค้าราคาปกติ ไม่มีสถานีอนามัย หรือโรงพยาบาล มีเพียงสถานพยาบาลเป็นของโรงแรม เดอะราชาใช้ในกรณีฉุกเฉิน ดังนั้นเกาะราชาจึงยังคงความสงบ และความ เป็นธรรมชาติไว้ได้อย่างสวยงาม

เกาะเฮหรือคอรัลไอแลนด

เกาะเฮหรือคอรัลไอแลนด เป็นเกาะเล็กๆ เกาะหนึ่ง ตั้งอยู่ทางใต้สุดของจังหวัดภูเก็ต ห่างจากชายฝั่งภูเก็ตประมาณประมาณ 10 ก.ม. เป็นอีกหนึ่งเกาะยอดนิยมของจังหวัดภูเก็ต ที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้โดยง่าย โดยเรือสปีดโบ๊ทเพียง 10-15 นาที และโดยเรือหางยาวประมาณ 45 นาที  ซึ่งเป็นเกาะที่เดินทางค่อนข้างสะดวกและเสียค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก

เกาะเฮ เป็นเกาะที่มีหาดทรายอันขาวละเอียด มีปะการังน้ำตื้นที่ยังอุดมสมบูรณ์ น้ำทะเลใส มองเห็นฝูงปลาแหวก ว่ายมากมาย โลกใต้น้ำที่อยู่ทางด้านตะวันตก มีปะการังสมอง ปะการังผักกาด ปะการังเขากวางปะการังจาน เป็น แนวยาว และเหล่าปลาน้อยใหญ่ หลากสีสันสวยงาม เช่น ปลาผีเสื้อ ปลาโนรี ปลานกแก้ว ปลาสินสมุทร สามารถ ดำน้ำแบบสนอร์เกิลใช้หน้ากากดำน้ำและท่อหายใจก็สามารถเห็นโลกใต้ทะเลที่สวยงาม ด้านหลังของเกาะยังมี ชายหาดสวย ขาวสะอาด น้ำทะเลใส ก็เหมาะแก่ผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เหมาะที่จะไปเที่ยวแบบไปเช้าไปบ่ายกลับ บนเกาะมีร้านขายอาหารเครื่องดื่มให้บริการบริเวณด้านหน้าเกาะ

กิจกรรมที่น่าสนใจบนเกาะเฮ
มีกิจกรรมทางน้ำต่างๆ อาทิ เล่นเจ็ตสกี บานาน่า โบ๊ท เรือลากร่ม หรือดำน้ำชมปลา ชมปะการัง พาราเซล ซีวอค เกอร์

การเดินทางมาท่องเที่ยวเกาะเฮ
แบบไปเช้าเย็นกลับ
- เรือสปีดโบท์โดยซื้อทัวร์ืแบบไปเช้าเย็นกลับจากท่าเรืออ่าวฉลอง ซึ่งมีให้เลือกมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่โปรแกรม ท่องเที่ยวจะมีให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบเที่ยวเกาะเฮทั้งวันเพียงเกาะเดียว หรือ เที่ยวเกาะเฮและเกาะราชาซึ่ง โปรแกรมอย่างหลังจะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากกว่า - เรือหางยาว คิดอัตราตามจำนวนคน ต่อเที่ยว ราคาประมาณ 2000-3000 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาทีสถานที่ติดต่อเรือ บริเวณอ่าวฉลองหรือ หาดราไวย์ 
กรณีค้างคืน
กรณีต้องการมาพักค้างคืนบนเกาะเฮมีที่พักเพียงแห่งเดียว คือ คอรัลไอแลนด์ รีสอร์ท

เมืองเก่าภูเก็ต ชิโนโปรตุกีส

เมืองเก่าภูเก็ต ชิโนโปรตุกีส ภูเก็ตยังจัดว่าเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์และความรุ่งเรืองอันยาวนานอีกเมืองหนึ่งของไทยโดยหนึ่งในรอยอดีต อันรุ่งเรืองของภูเก็ตตึกเก่าแบบชิโน-โปรตุกีสถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2446 เนื่องจากการทำเหมือง แร่ที่เติบโตทำให้ชาวจีนและชาวตะวันตกต่างหลั่งไหลเข้ามาที่เมืองภูเก็ตเป็นจำนวนมาก เมื่อเข้าสู่เขตเทศบาล เมือง ภูเก็ตสิ่งแรกที่ผู้ไปเยือนจะรู้สึกสะดุดตาก็คือตึกเก่าที่ตั้งตระหง่านอยู่ในย่านการค้าเก่าเเก่ของเมือง เป็น อาคารสไตล์ "ชิโนโปรตุกีสที่ผสมผสานเอาความเป็นศิลปะตะวันตกและตะวันออกเข้าไว้ด้วยกันอย่าง กลมกลืน จนเป็นเอกลักษณ์ ์ที่โดดเด่นของเมืองภูเก็ต ตึกเก่าเหล่านี้กระจายอยู่ทั่วตัวเมืองภูเก็ต สามารถเดินชมได้อย่างต่อ เนื่อง นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารอร่อยหลายเจ้าให้เที่ยวไปกินไปอย่างเพลิดเพลินและทางเทศบาล เมืองภูเก็ต ก็ได้เห็นถึงความสำคัญของ สถาปัตยกรรมเหล่านี้ โดยได้ทำการอนุรักษ์รูปแบบสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสนี้ ไว้และจัดให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ของการท่องเที่ยว จัดให้มีเส้นทางเดินชมเมืองเก่าภูเก็ต เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ สัมผัสกับความสวยงามของบ้านเรือนเก่าแก่ของภูเก็ตและสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีส ที่สวยงาม พร้อมๆกับได้ สัมผัสวัฒนธรรมและวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ของคนภูเก็ตและที่สำคัญอาหารอร่อยเลื่องชื่อการเดิน ชมเมืองเก่า เสน่ห์แห่ง ชิโนโปรตุกีส เป็นเส้นทางประวัติศาสต์ ที่ควรค่าแก่การศึกษายิ่ง


แม้ว่าตึกเก่าเหล่านี้จะกระจายอยู่ทั่วเมืองภูเก็ต แต่ย่านที่มีอาคารเก่าหนาแน่น คือ ถ. ดีบุก กระบี่ ถลาง และ เยาวราช เนื่องจากถนนเหล่านี้เป็นย่านเก่าของภูเก็ตประวัติ ในอดีตเมืองท่าสำคัญทางฝั่งตะวันตกของแหลมมลายู มีชาวจีนเข้ามาค้าขายกันมาก ก่อนตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก เช่น เมืองมะละกา มีโปรตุเกส ฮอลันดา และอังกฤษ ผลัดเปลี่ยนกันครอบครอง และนำรูปแบบศิลปวัฒนธรรมเข้ามาเผยแพร่ สถาปัตยกรรมจึงมีลักษณะ ผสมผสานกันระหว่างศิลปะตะวันตกและศิลปะตะวันออก เรียกว่า อาคารแบบโคโลเนียล จากนั้นก็ส่งอิทธิพลไป ตามเมืองท่าต่างๆอย่างสิงคโปร์ และปีนังซึ่งมีสายสัมพันธ์โดยตรงกับภูเก็ต



รูปแบบตึกสิ่งน่าสนใจ

สถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีสแบ่งเป็นสองประเภทคือ 
ตึกแถว หรือ "เตี้ยมฉู่" และคฤหาสน์หรือ "อั่งม้อหลาว อั่งม้อหลาวเป็นภาษาจีนฮกเกี้ยน "อั่งม้อ" แปลว่า ฝรั่ง หรือชาวต่างชาติ ส่วนคำว่า "หลาว" แปลว่า ตึกคอนกรีต อั่งม้อหลาว ก็คือคฤหาสน์แบบฝรั่งที่นายหัวเหมืองแร่ของ ภูเก็ตสร้างเป็นที่อยู่อาศัยในสมัยนั้น โดยบ้านหลังแรกที่สร้างขึ้นตามแบบชิโน-โปรตุกีส โดยช่างชาวจีนจากปีนัง ก็คือ บ้านชินประชาของพระพิทักษ์ ชินประชา นายเหมืองต้นตระกูลตัณฑวนิชตั้งอยู่ถนนกระบี่ ถือว่าเป็นต้น แบบของบ้านคหบดีจีนที่กระจายอยู่ทั่วทั้งเมืองภูเก็ต ตึกแถวเป็นอาคารสองชั้นกึ่งร้านค้ากึ่งที่อยู่อาศัย ลักษณะ ลึกและแคบ ชั้นล่างแบ่งพื้นที่ใช้สอยไปตามความลึกได้ถึงห้าส่วนด้านหน้าเป็นร้านค้าหรือสำนักงาน ถัดไปเป็น ห้องรับแขก ห้องพักผ่อน ห้องอาหาร ห้องครัว ภายในอาคารมักมีฉิ่มแจ้ หรือบ่อน้ำบาดาลหนึ่งบ่อและเจาะช่อง ให้อากาศถ่ายเทและแสงส่องเข้าอาคาร ตึกแถวในภูเก็ตจึงเย็นสบาย ส่วนที่ชั้นสองเป็นห้องนอนหน้าตึกแถวมีทาง เดินเท้า ทำเป็นช่องซุ้มโค้งเชื่อมกันไปตลอด ทั้งแนวตึกแถว เรียกว่า อาเขต (arcade) โดยมีชั้นบนยื่นล้ำ ออกมา เป็น หลังคากันแดดกันฝนซึ่งตกเกือบตลอดปี นับเป็นสถาปัตยกรรมที่สัมพันธ์กับ สภาพภูมิอากาศอีกทั้งยัง แสดง ให้เห็นถึงความเอื้ออาทร ของเจ้าของบ้านกับผู้สัญจร ที่ชั้นสองด้านหน้าอาคารเน้นการ เจาะช่องหน้าต่างเป็น ซุ้มโค้งคูหาละสามช่อง ขนาบข้างด้วยเสาแบบกรีก และโรมัน บนพื้นผนังตกแต่งด้วยลายปูนปั้นทั้งแบบจีน และ ตะวันตก ผสมกันอย่างลงตัว สามารถเดินชมได้ทั่วทั้งถนนถลาง ดีบุก พังงา กระบี่และเยาวราชนอกจากนี้ย่าน โคมเขียว โคมแดงในอดีตที่ซอยรมณีย์ก็มีตึกสีสันสวยแปลกตากว่าถนนไหนๆ


เส้นทางการเดินชมตึกเก่าชิโนโปรตุกีส

ช่วงที่ 1 ณ ถนนภูเก็ต ถนนรัษฎา และถนนระนอง
เริ่มจากศูนย์รวมข่าวพรหมเทพ เริ่มจากศูนย์รวมข่าวพรหมเทพ ซึ่งตั้งอยู่หัวมุมถ.พังงาตัดกับถ.ภูเก็ต เมื่อเดินลง มาตามทิศใต้ เลี้ยวขวาเข้าถ.รัษฎาไปจนถึงวงเวียนสุริยเดช และตรงไปตามถ.ระนอง ผ่านตลาด จนถึงบริษัท การบินไทยซึ่งช่วงนี้จะได้พบกับตึกสวยงามมากมาย อาทิ ศูนย์รวมข่าวพรหมเทพ อาคารสีขาว 2 ชั้น ที่โดดเด่น ด้วยหอนาฬิกาสูง 4 ชั้น มีหลังคาคล้ายรูปหมวกตำรวจสมัยก่อน ช่องประตูหน้าต่างแบ่งเป็นช่องโค้งมีเสาอิงแบ่ง เป็นช่วง ประดับลายปูนปั้นบนยอดซุ้มโค้งสวยงามและโรงแรมถาวร โรงแรมเก่าแก่ ที่เมื่อเข้าไปภายในโถง โรงแรมและส่วนคอฟฟี่ชอป จะได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเมืองภูเก็ตผ่านนิทรรศการ ภาพถ่าย และมีเครื่องเรือน ตู้โทรศัพท์ เครื่องฉายภาพยนตร์ เครื่องแต่งกาย ข้าวของเครื่องใช้ของคนงานในเหมืองให้ได้ชมอีกด้วย


ช่วงที่ 2 ถนนพังงา ถนนภูเก็ต และถนนมนตรี

เริ่มต้นที่มุมถ.ระนองตัดกับถ.เยาวราช บริเวณวงเวียนสุริยเดช เดินไปตามถ.เยาวราช 70 ม.เลี้ยวขวาเข้าถนนพังงา จนถึ สี่แยกตัดกับถนนภูเก็ต ซึ่งช่วงนี้อาจเลี้ยวซ้ายตามถ.ภูเก็ต ข้ามไปสี่แยกถ.มนตรีแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถ.มนตรี เส้นทางช่วงนี้เป็นเส้นที่มีตึกแถวเก่า ศาลเจ้าเก่า อาคารสาธารณะ อาคารราชการ ซึ่งแต่ละที่ล้วนแล้วแต่มี สถาปัตยกรรมสไตล์ชิโนโปรตุกีสที่งดงาม


ช่วงที่ 3 ถนนถลางและซอยรมณีย์

เป็นถนนสายประวิติศาสตร์อันเก่าแก่ ตรงช่วงนี้จะมีอาคารตึกแถวเก่าที่มีรูปแบบเดิมๆเกาะกลุ่มกันอยู่เป็นจำนวนมากโดยมีจุดเด่นอยู่ตรงที่มีการเปิด ช่องทางเดินเอาไว้เหมือนในอดีต ซึ่งเส้นทางนี้เริ่มต้นจากสี่แยกถ.ถลางตัดกับถ.ภูเก็ตไปจนสุดสี่แยกตัดกับ ถ.เยาวราช มีตึกแถวกว่า 151 คูหาโดยมีตึกแถวที่น่าสนใจตรงช่วงตึกแถวบ้านเลขที่ 107 ถึง 129 ที่ตัวตึกมี รูปแบบการตกแต่งช่องหน้าต่างโค้งตามแบบสถาปัตยกรรมยุคนีโอคลาสสิค มีลวดลายที่ดงามเน้นธรรมชาติเถาไม้ ใบไม้ และรูปสัตว์ และก็มีตึกแถวตรงฝั่งเลขคู่ช่วงปลายถนน ซึ่งตึกแถวบริเวณนี้มีลักษณะเด่นอยู่ที่ประตูด้านหน้า เป็นแบบบานเฟี้ยมไม้เก่าแก่ ช่วงเสาจะกว้างเท่ากับตึก 2 คูหารวมกัน มีการนำศิลปะการเจาะช่องหน้าต่างและ ลวดลายปูนปั้นแบบอาร์ตเดโคมาใช้ได้อย่างกลมกลืนและสวยงาม


ช่วงที่ 4 ถนนกระบี่ และถนนสตูล

เริ่มจากถ.กระบี่บริเวณแยกถ.เยาวราช เดินไปทางตะวันตกจนถึงสามแยกตัดกับถ.สตูล เดินตรงไปถึงบ้าน คุณประชา ตัณฑวณิช ย้อนกลับมาจนถึงสามแยกตัดกับถ.ดีบุก เส้นทางสายนี้มีอาคารเก่าที่ชวนชม อย่างอาคาร พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว เป็นตึก 2 ชั้น ชั้นล่างมีซุ้มโค้งเตี้ยขนาดใหญ่ 3 ซุ้ม มีเสากลมรับโค้ง หัวเสาประดับ ด้วยลายบัวแบบกึ่งไอโอนิค และคอรินเธียน ผนังอาคารเซาะร่องขนาดใหญ่ เรียกว่า Rustication ชั้นบนมี ซุ้ม หน้าต่าง 3 ซุ้ม มีช่องหน้าต่าง 2 ช่องกรอบหน้าต่างด้านบนเป็นจั่วโรมัน บานหน้าต่างไม้สี่เหลี่ยม มีลวดลาย เรขาคณิต เหนือซุ้มช่วงกลางมีหน้าจั่วปูนปั้นรูปค้างคาว และช่วงถนนนี้ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นจำนวนมาก เพื่อว่า เดินไปแล้วหิวก็แวะเช้าไปชิมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นร้านสุนทรโอชาขายข้าวต้มและอาหารพื้นเมือง ร้านขนมจีนป้ามัย ร้านหมี่แป๊ะแถว


ช่วงที่ 5 ถนนเยาวราช ตรอกสุ่นอุทิศ ถนนดีบุก

ช่วงนี้เริ่มจากแยกถ.ดีบุกตัดกับถ.สตูล เดินตามถ.ดีบุกจนถึงสี่แยกตัดกับถ.เยาวราช พอเลี้ยวขวาเข้า ถ.เยาวราช จะได้สัมผัสกับบรรยากาศตึกเก่าและแวะลิ้มรสอาหารอร่อยในตรอกสุ่นอุทิศ แล้วย้อนกลับมา สี่แยกเลี้ยวเข้า ถ.ดีบุก อีกช่วงหนึ่งจะเข้าสู่ซอยรมณีย์ การเดินชมเมืองในช่วงนี้จะได้สัมผัสกับความหลากหลาย ของตึกชิโน โปรตุกีส ที่หาดูได้ยาก อย่างที่บ้านหลวงอำนาจนรารักษ์ เป็นบ้านที่มีความงดงามโดดเด่นอยู่ที่ลายปูนปั้นตั้งแต่ หัวเสาแบบคอมโพสิต และช่วงคานเหนือเสา เป็นศิลปะแบบกรีกยุคคลาสสิคผสานกับปูนปั้นลายค้างคาว ลายหงส์ ลายเมฆ รวมทั้งลายใบไม้ และผลไม้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์มงคลของคนจีน


และสุดท้าย ช่วงที่ 6 ถนนกระษัตรี 

ช่วงนี้เป็นช่วงต่อจากเส้นทางเดินที่ซ.รมณีย์ เลี้ยวซ้ายทะลุออกถ.ถลาง เมี่อถึงสี่แยกเลี้ยวซ้ายเดินตาม ถ.เทพกระษัตรี พอถึงแยกตัดกับถ.ดีบุก อาจแวะชมบ้านเก่าแล้วย้อนออกมาตามถ.เทพกระษัตรีอีกครั้งจนไปสิ้น สุดเส้นทางที่คฤหาสน์ตระกูลหงส์หยก หรือบ้านหลวงอนุภาษภูเก็ตการ ซึ่งเป็นบ้านที่สร้างในสมัยร. 7 ด้านหน้า อาคารเป็นรูปโค้งครึ่งวงกลมกลมขนาดใหญ่ที่รถยนต์เข้าไปจอดเทียบได้ ชั้นล่างเป็นซุ้มโค้งเตี้ย 3 โค้ง หัวเสา จะเป็นแบบดอริก ผนังเซาะเป็นร่องลึก คล้ายแนวหินก่อ ชั้นบนเป็นระเบียง มีลูกกรงปูนปั้นประดับ หลังคาทรง ปั้นหยา ด้านปีกซ้ายมีช่องแสงเป็นรูปโค้งครึ่งวงกลมประดับด้วยบานเกล็ดไม้ ด้านปีกขวาตกแต่งช่องแสงด้วย กระจกสีต่างๆ กรุในกรอบสี่เหลี่ยมมีรูปวงกลมอยู่ข้างใน นับว่าเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ งดงามทางด้าน สถาปัตยกรรมเป็นอย่างมาก


จากเรื่องราวของตัวตึกเก่าที่ยังคงมีชีวิตชีวาของผู้คนเด่นชัด อีกความน่าสนใจในย่านนี้ก็คือ การชิมอาหาร พื้นเมืองภูเก็ต ซึ่งอาหารส่วนใหญ่เป็น อาหารจีนฮกเกี้ยนและปีนัง อาหารเผ็ดร้อนแบบไทยภาคใต้และ อาหารมุสลิม



มื้อเช้า

คนภูเก็ตไม่ค่อยกินข้าวเป็นอาหารเช้า ส่วนมากจะนิยมเป็นติ่มซา หรือโรตี มะตบะ กับชาร้อน สำหรับร้านติ่มซำ แนะนำร้านสมชายกิตติ ที่ขายทั้งติ่มซำกลั้วกับกาแฟร้อนสูตรโบราณที่นี่เขาเสิร์ฟทีเดียวนับสิบชนิด ไม่ว่าจะ เป็นขนมจีบ ซาลาเปา ฮะเก๋า สาหร่าย ปูทอด ลูกชิ้นปลา ฯลฯ จะเลือกกินอะไรก็ได้ คิดเงินตามจำนวน ถ้วย เปล่าเท่านั้นส่วนโรตีแกงข้ามสู่ถนนถลาง เดินไปเพียงไม่กี่เมตร ด้านซ้ายมือ ก็จะพบกับรา้นอรุณโภชนา ร้านชื่อ ดังย่านถนน ถลาง เปิดขายตั้งแต่ 6.30 - 17.00 น. ซึ่งเป็นร้านขายอาหารของมุสลิม ทั้งโรตีแกง มีให้เลือก ทั้งแกงเนื้อ แกงไก่ รวมถึงเมนูเด็ดอื่นๆที่เจ้าของร้านคุณมนัสดา ดา เจ้าของ ร้านอรุณโภชนา แนะนำมา ทั้ง ซุปเนื้อ ข้าวหมกไก่ และเมนููสุขภาพ ข้าวยำปัตตานี และมะตะบะได่ ที่ได้รับรางวัลโดยกรมสุขภาพ


ช่วงเที่ยง-บ่าย

ส่วนมื้อเที่ยงก็นิยมกินหมี่กัน อย่างหมี่ฮกเกี้ยน เส้นหมี่เหลืองกลมใหญ่ผัดซีอิ๊ว หรือนำมาปรุงเป็นหมี่น้ำ ใส่ซุป และเครื่องซีฟู้ด หมี่หุ้นปาฉ่างก็รสชาติดี เป็นเส้นหมี่ขาวผัดแห้งโรยหอมเจียว กินกับซุปกระดูกหมูช่วยให้คล่องคอ สำหรับคนที่ชอบเครื่องในต้องโลบะ สารพัดเครื่องในหมูปรุงกับเครื่องพะโล้แล้วทอดกินกับเต้าหู้ทอด และน้ำจิ้มรส หวาน หรืออาหารชื่อแปลกโอต๊าว หน้าตาคล้ายหอยทอด ใช้หอยนางรมผัดกับแป้ง เผือก และไข่ ที่อร่อยและ แนะนำให้ชิมก็คือกะหรี่ไหมฝัน เส้นหมี่กับแกงกะหรี่ แต่เจ้าเส้นหมี่ที่ว่าหน้าตาค่อนไปทางขนมจีนเส้นเล็กเสีย มากกว่าราดด้วย แกงกะหรี่ไก่ ใส่เลือดหมู เต้าหู้ ผักบุ้ง ถั่วงอก ก่อนกินอย่าลืมบีบมะนาวเพิ่มรสชาติ จะว่าไป รสชาติก็คล้ายกับข้าวซอยของทางเชียงใหม่ในภาคเหนืออยู่เหมือนกัน แนะนำร้านสมจิตต์ หมี่ฮกเกี้ยน แถวๆ หอนาฬิกาน้ำที่เรียกว่าหมี่เช็ค ซึ่งพี่สมจิตต์ ปัญจะมีดิถี เจ้าของร้านบอกว่า เป็นสูตรมาจากรุ่นอากงคือแป๊ะหัง ที่มา เปิดขายเป็นเจ้าแรกในภูเก็ต กว่าจะตกมาถึงรุ่นที่สามก็ 60 กว่าป ีน้ำซุปที่นี่หวานหอมจนเป็นเอกลักษณ์ ต้มด้วย กุ้งทั้งเปลือก ใครสั่งหมี่แห้งอย่าลืมขอน้ำซุปมาซดพร้อมกันไปด้วยบ่าย ๆ หาก เหนื่อยหรือหิว ที่แยก ถนนเยาวราชตัดกับถนนดีบุกก็เป็นแหล่งรวมของกินพื้นเมืองชั้นดี ทั้งโลบะที่เป็นส่วนของหัวหมู และเครื่องใน ต้มพะโล้ จากนั้นนำไปทอดจนเหลืองกรอบ ถ้าอยากลองแห่จี่ที่เป็นแป้งผสมถั่วงอก โรยหน้าด้วยกุ้งสดทอด หรือ เกี้ยน ที่ทำจากหมู ปู กุ้ง สับรวมกับมันแกวและเผือก ห่อด้วยแผ่นฟองเต้าหู้แล้วทอดจนน่ากินก็สั่งรวมกันได้ ได้ จิ้มกับน้ำจิ้มสูตรเด็ดที่ถามอย่างไรพี่เขาก็ไม่ยอมบอกสูตร อร่อยจนลืมไปเลยว่าเพิ่งกินเที่ยงมา


ใกล้ๆกันบนถนนเยาวราชที่ซอยสุ่นอุทิศที่นี่เป็นแหล่งรวมของอร่อยของชาวภูเก็ตที่เรียงรายกันไปด้วยรถเข็น สามสี่ร้าน เริ่มกันที่คันแรก อาโป๊งแม่สุณี ขนมฮกเกี้ยนโบราณ ทำจากแป้งน้ำตาล กะทิ ไข่ นำมาผสมให้เข้ากัน แล้วทอด พอสุกก็ม้วนเป็นกระบอกคล้ายทองม้วน ต่างกันตรงไม่มีไส้ หอมหวานถูกใจเด็ก ๆ ดีทีเดียว ถัดไปเป็น ร้านขายขนมหวานโอ้เอ๋วที่มีอยู่ถึง 2 ร้าน และเป็นร้านเก่าแก่ทั้งคู่ คือ โกโรจน์และแป๊ะเอ้ง โอ้เอ๋วเป็นขนมกิน เล่นดับร้อนของคนภูเก็ต ลักษณะเป็นวุ้นทำจากกล้วยน้ำว้าขยำกับเม็ดโอ้เอ๋ว โปะด้วยน้ำแข็งไสราดน้ำเชื่อม ร้อน ๆ อย่างนี้ได้ลองสักถ้วยแสนจะชื่นใจในสุดคือหมี่หุ้นป้าฉ่าง หรือบางคนเรียกป้าช้าง หมี่หุ้นคือหมี่ขาวที่ผัดกับซีอิ๊ว โรยด้วยหอมเจียวและต้นหอม หมี่หุ้นกับน้ำซุปกระดูกหมูของป้านั้นชามเล็ก ๆ น่ารัก แต่รสชาติไม่เล็กเหมือนชาม



การเดินทางไปชมตึกเก่า

เริ่มจากตัวเมืองภูเก็ตหากไม่มีรถส่วนตัว สามารถนั่งมอเตอร์ไซต์ราคาประมาณ 40-50 บาท ให้มาส่งที่ย่านเก่า หลังจากนั้นก็เดินชมเมืองต่างๆ ด้วยเท้าไปเรื่อยๆสำหรับผู้ที่มีรถส่วนตัว็สามารถจอดรถ ในจุดไหนที่สะดวกใน บริิเวณใกล้้เคียงแล้วค่อยเดินมา เพราะหากจอดรถแถวย่านเก่าอาจจะหาที่จอดยาก

จุดชมวิวเขาขาด ภูเก็ต

หอชมวิวเขาขาด เป็นจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่ง ของจังหวัดภูเก็ต สร้างขึ้นตามโครงการขององค์การบริหาร ส่วน ตำบลวิชิต (อันนี้ต้องให้เครดิตเค้าหน่อย) ตั้งอยู่ในตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ตั้งอยู่ในบริเวณอ่าวมะขาม ใกล้กับแหลมพันวา จุดชมวิวเขาขาดเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง ของเมืองภูเก็ตที่มีจุดชมวิวมากมาย แต่มีเพียงไม่กี่แห่งที่สามารถชมวิวได้ 360 องศา และแน่นอนว่าชมวิวได้ 360 องศาอย่างแท้จริงที่นี่คือ “จุดชมวิวเขาขาด” หากพูดถึงจุดชมวิวแห่งนี้ไม่เป็นที่รู้จักมากนักไม่ว่าจะในหมู่นักท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งคนพื้นที่เองเพราะเพิ่งจะเปิดได้ไม่นาน และตำแหน่งก็อยู่ในโซนที่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวอันโด่งดังของภูเก็ตแต่จุดชมวิวแห่งนเป็นมุมมองใหม่ที่มีเสน่ห์ไม่แพ้จุดอื่น ๆของภูเก็ตเลยทีเดียว


เมื่อมาถึงจุดชมวิวแล้วจะมีลานจอดรถและห้องน้ำอยู่ด้านล่างโดยการขึ้นไปจุดชมวิวเพื่อให้เห็นวิวสวยนั้นต้อง ขึ้นไปหอคอยเป็นหอชมวิวลักษณะ แปดเหลี่ยม เมื่อเดินทางขึ้นไปบนหอชมวิวนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นทัศนียภาพ โดยรอบ บริเวณหอชมวิวเขาขาดมี ทัศนียภาพ ที่เป็นเอกลักษณ์ใน มุมสูงี่สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้ถึง 360 องศา ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้เข้าเที่ยวชมและสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ตระการตาแห่ง ท้องทะเลอันดามัน และความสวยงาม ของ ทิวทัศน์ รอบเกาะภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นอ่าวฉลอง แหลมพันวา เกาะสิเหร่ รวมถึงตัวเมืองภูเก็ตอีกด้วย โดยในจุดชมวิวแต่ละมุมก็ จะมีป้ายอธิบายว่าแต่ละจุดคืออะไรบ้าง หากใครที่ได้มีโอกาสมาเที่ยวเมืองภูเก็ตและไม่ได้แวะมาชมจุดชมวิวเขาขาดในมุม 360 องศาแล้ว รับรองจะต้องเสียใจ และเสียดายมาก



ซ้าย : มองเห็นตัวเมืองภูเก็ตอย่างชัดเจน

ขวา : เขาด้านหน้าคือแหลมพันวา
ด้านทิศตะวันออก : สามารถมองเห็นท่าเรือน้ำลึกและเกาะต่าง ๆ ที่อยู่ด้านเหนือของภูเก็ต 
ไม่ว่าจะเป็นอ่าวมะขาม อ่าวภูเก็ต แหลมพันวา เกาะไม้ท่อน เกาะสิเหร่ แหลมอ่าวมะขาม เกาะตะเภาน้อย เกาะตะเภาะใหญ่
ด้านทิศตะวันตก : จะมองเห็นอ่าวฉลอง ซึ่งมีเรือจอดอยู่เต็มไปหมดปากคลองมุดง 
นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นพระใหญ่ (พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี)ตั้งตะหง่านอยู่บนเทือกเขานาคเกิดอีกด้วย  


การเดินทางไปจุดชมวิวเขาขาด

การเดินทางสู่เขาขาดนั้นสามารถเดินทางได้ด้วยรถส่วนตัวหรือการเหมารถมาเท่านั้น ไม่มีรถรับจ้างประจำทางเข้ามาถึง เส้นทางที่สะดวกที่สุด คือ เส้นทางถนนศักดิเดช ไปตามเส้นทางอ่าวมะขาม ก่อนถึงแหลมพันวา จะมีทางเข้าซอยไปยังเขาขาดระหว่างทางได้สัมผัสกับทิวทัศน์ของอ่าวยน มีบรรดาเรือยอช์ทลำเล็กลำน้อยวางเรียงรายอยู่บนผิวน้ำอย่าง เป็นระเบียบ และตลอดสองข้างทางยังมีธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์หนทาง ก็ดูซับซ้อนเล็กน้อย แต่ไม่สับสนแน่นอน เพราะเค้ามีป้ายบอกทาง อันเล็กๆ อยู่ตลอดแนวถนน